ช่วงที่เคยทำงานในสถานร่าเริงยามราตรีย่านรังสิต..เคยมีน้องๆ หลายๆ คน บอกผมว่า ดีใจจังที่ผม ก็เป็นรุ่นพี่ที่คณะมหาลัยเดียวกัน ที่ คณะนิเทศ ม.กรุงเทพ ผมก็ได้แต่ยิ้มเล็กๆ ตอบรับในใจ...เพราะหากแสดงออกมามากไปก็คงไม่สู้ดีนัก เพราะกับน้อง ๆ หลายคน หากไล่เรียงกันโดย เอารหัสนักศึกษาเมื่อตอนผมเรียน หักลบกับรหัสของน้อง ณ ปัจจุบัน บางคนยังไม่เกิดด้วยซ้ำไป...เพราะมันมากกว่าอายุของน้องเค้าซะอีก...แต่นี่ก็ถือว่าผมโชคดีมากเช่นกันนะครับ ที่ตอนนั้นยังไม่มีกรณี ของแอนนี่ กับฟิล์ม ถ้าเรื่องนี้ เกิดตอนนั้นผมคงลำบากคิดว่านี้อีกเยอะทีเดียว ผมคงต้องคำนวณตัวเลขในใจบวกลบกันหลายครั้งตามประสาคนชอบคิดอย่างผม แล้วก็ต้องคำนวณย้อนหลังจากวันเกิดน้องถอยไปอีก 9 เดือนต้องนับวันเผื่อหน้า7หลัง7 กันเลยทีเดียว และหากลองคิดเล่น ๆ ดู ไม่แน่นะครับ วันที่ผมเดินเข้ามหาลัยวันแรก อาจจะเป็นวันที่ สิ่งมีชีวิตตัวเล็ก ๆ กำลังเริงร่าแหวกว่ายเอาตัวสอดแทรกเพื่อเข้าไปในใข่ฟองนึงแล้วก็ร้องตะโกนว่า...I am winner ...และการปฎิสนธิในครั้งนั้นก็ทำให้เกิดน้อง ๆ คนไหนสักคนนึงขึ้นมาซึ่งกำลังคุยอยู่ข้างหน้าผมตอนนี้ คิดแล้วก็ภูมิใจแบบเศร้าๆ ยังไงพิกล
สำหรับผม เรื่อง อายุ ผมไม่ค่อยจะคิดมากหรือซีเรียสอะไรมากมาย ผมคิดว่า อายุมันก็คือของแถมที่กาลเวลาทิ้งเอาไว้ให้ ผมว่าสิ่งสำคัญและดีที่สุดที่ผมได้จาก เดินทางผ่านกาลเวลา คือ ประสบการณ์ที่ผ่านมาเข้าในชีวิตมากกว่า แต่กับของแถมสิ่งนี้ ก็เป็นสิ่งที่ผมภาคภูมิใจอยู่ไม่น้อย เพราะที่ผ่านมา ใครถามผมจะบอกตามตรงและบอกความจริงเสมอ ผมถือว่า เรื่องอายุเป็นเรื่องที่เราต้องยืดอกรับเพราะกว่าเราจะได้อายุมาสะสมแต่ละ 1 ปี ต้องใช้เวลาถึง365 วัน ไม่ง่ายเลยนะครับ แล้วยิ่งถ้าวันไหนมีอะไรอยู่ในใจเยอะๆ โอ้โห กว่าจะผ่านไปแต่ละวันช่างนานแสนนาน และผมเลยเป็นคนที่สะสมอายุกับมิตรภาพเป็นงานอดิเรกครับและเชื่อมั๊ยครับว่าวันนี้วันที่ผมกำลังเขียนหนังสือเล่มนี้อยู่เป็นวันที่ผมสะสมอายุได้มากที่สุดในชีวิต ฮ่าๆๆๆ
ผมเคยคิดเล่น ๆ ตามประสาคนสนุกคิด ว่า..คนมีอายุอย่างผมถ้าเป็นสินค้าก็คงเป็นสินค้าที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าหรืออยู่ตามตลาดนัดไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะตัวเลขอายุผมคงไม่ยอมให้ติดป้าย discount หรือ sale อย่างที่เค้าทำๆกัน และเชื่อเหลือเกินว่าเค้าคงไม่ยอมให้ใครมาต่อราคา แบบในตลาดนัด ลดได้เท่าไหร่ลดอีกได้มั๊ย..คงไม่มีทางแน่..ผมคิดว่าสินค้ามีอายุอย่างผมคงต้องสินค้าประเภทของเก่าที่อยู่ตามแกลเลอรี่ ที่การตัดสินใจซื้ออยู่ที่ความพึงพอใจมากกว่าราคาที่ตั้งไว้ เห็นมั๊ยล่ะครับว่าของมีอายุมันเป็นสิ่งที่มีค่าเหมาะที่จะเป็นของสะสม อย่างยิ่ง
ด้วยเหตุผลนี้แหละ ที่ทุกครั้ง ก่อนที่ผมจะบอกว่าอายุผมเท่าไหร่ ผมต้องเกริ่นนำไปว่า...ถ้าพี่บอกไปแล้วห้ามกันต่อนะ เพราะพี่ไม่ได้บอกผ่าน นี่ เป็นตัวเลขต้นทุนตั้งแต่เริ่มใช้มาตั้งแต่เกิดเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆ ที่ต้องบอกไปอย่างนั้นเพราะหลาย ๆ ครั้งที่บอกเรื่องอายุกับน้อง ๆ หลายคน พวกเค้าจะต้องมีคำถามกลับในความแปลกใจ บางคนถึงกับตกใจก็มี แล้วก็ต้องบอก “ไม่จริงบ้าง ไม่เชื่อ โกหกอย่ามาอำ ทำไมดูไม่แก่เท่าไหร่” บางทีก็อยากบอกกลับไป ” เออ..น้องครับจริง ๆ แล้วพี่ก็ยังไม่แก่นะครับ พี่แค่คนมีอายุ” แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรมากมาย เพราะจะเกิดการต่อเนื่องเรื่องคำถาม ....จะเป็นเช่นนี้อยู่ประจำ แต่เป็นที่น่าสังเกต มีจำนวนไม่น้อย น้อง ๆ ที่สงสัยเหล่านี้มักจะเป็นผู้หญิงเกือบทั้งนั้น..ด้วยเหตุนี้หรือเปล่า ผู้หญิง ส่วนมากจึงรับกันไม่ค่อยได้กับความจริงเรื่องอายุ เลยไม่ชอบให้ใครถาม เพราะไม่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ฮาๆๆๆ เป็นอะไร ที่น่าคิดนะครับ ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้องสงสัยและไม่ค่อยเชื่อกัน คงเป็นเพราะผมไม่เคยทำตัวแก่เท่าที่อายุผมมี ยังพอทำตัวเนียน ๆ เหมือนจะกลมกลืนกับพวกน้อง ๆ ได้บ้าง ก็เข้ามาอยู่เมืองตาหลิ่ว เราก็ต้องหลิ่วตาตามไม่ใช่หรือครับ อยากรู้จักวัยรุ่นเราก็หัดเรียนรู้ความเป็นวัยรุ่นให้เป็น คือผมมันคนง่าย ๆ เป็นให้ได้ทุกสิ่งทุกอย่างครับ..คริคริ
ที่สุดแล้ว ผมเลยคิดหาทางออกกับการบอกความจริงเรื่องอายุของตัวเอง...ในเมื่อพวกน้อง ๆ เค้ารับความจริงเรื่ออายุเราไม่ได้ เราก็ต้องสร้างความจริงใหม่ให้น้อง ๆ เชื่อ..โดยมาประเมินความน่าจะเป็นของอายุตัวเองซะใหม่ให้ดูสอดคล้องกับความเป็นจริง..เพื่อจะได้ลดความสงสัยเรื่องนี้จากน้อง ๆ เพราะ ความสงสัยมันสามารถทำให้เกิดคำถามได้มากมาย และกับคำถามจำนวนมากที่ต้องตอบแบบเดิมทุกครั้งบางทีมันก็น่าเบื่อเหมือนกันนะครับ...ผมจึงตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง...คือต้องหาทางคำนวณความน่าเชื่อเรื่องอายุ ของตัวเองเพื่อเอาไว้บอกกับน้อง ๆ ให้ได้...ดูแล้วก็น่าสงสารความดูเด็กกว่าวัยของตัวเองเช่นกันครับ มันทำให้เราลำบากอยู่ไม่น้อย คริคริ
ไวเท่าความคิด ผมเลยตั้งโจทย์คณิตคิดในใจทันที...เอาตัวเลขอายุจริง ตั้งบรรญัติไตรยางค์ บวกลบคูณหารกับเรื่องราวหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับตัวเอง โดยใช้สูตรแบบคิดแล้วสุข....คุณพระช่วย..ไม่น่าเชื่อ ตัวเลขประเมินความน่าจะเป็นเรื่องอายุผม ต่ำกว่าความเป็นจริงตั้ง 10 ปีพอดีเด๊ะ...โอ้โห..ไม่อยากเชื่อ .แต่ ผมเป็นคนรับความจริงได้ครับ คงไม่ทำอะไรเว่อร์ตามตัวเลขที่ประเมินออกมา...คิดแบบพอเพียงเจอกันครึ่งทาง...คือ 5 ปีพอ...จากนั้นมา พอใครถามเรื่องอายุผม ผมก็จะบอกอายุจริงทุกครั้ง แต่ตั้งไว้ในใจก่อนแล้วลบออกไป 5 ปี ...แล้วคำถามและความสงสัย แทบจะหายไปเกือบหมด เห็นมั๊ยล่ะครับครับอายุ นี่แค่ตัวเลขจริง ๆ ที่ผ่านมา สาม สี่ ปี ให้หลังมานี่ผมก็บอกความจริงที่ที่ทดไว้ในใจบางส่วนเรื่องอายุกับทุกคนแบบนี้มาตลอด ...แต่ผมไม่ได้โกหกนะครับ เพราะผมก็เคยผ่านอายุช่วงนั้นมาแล้วจริง ๆ 18 ผมก็เคย 20 ก็ผ่านมาแล้ว 30 ก็เคยใช้มา 1 ปีเต็ม ๆ ชีวิตผมมันผ่านอะไรมาเยอะครับ ถ้าจะให้บอก เรื่องหน้าตา...ผมก็เคยเป็นคนหน้าตาดี เหมือนกันนะครับ...เป็นเล่นไปครับ ครั้งนึงสมัยยังเป็นวัยรุ่นผมเคยถูกเรียกไปแคสติ้งงานโฆษณางานเดียวกับ เจ มณฑล จิรา มาแล้วนะครับ...ขอบอก..แต่ก็ไม่ต้องถามต่อนะครับว่าใครจะได้...เพราะมันเป็นคำถามที่แม้แต่เด็กอนุบาลก็ตอบได้ ฮ่า ๆๆๆๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น