
แต่..ผมก็อดคิดไม่ได้นะว่า...นี่ถือว่าโชคดีของผมจริง ๆ ที่พ่อผม แกยังไหวตัวทัน คิดได้ นี่ถ้าคิดได้ช้ากว่าอีกสัก2-3 ปี รังไข่แม่ผมหยุดทำงานแน่นอน ความซวยบังเกิดแน่ และผมคงไม่มีทางได้เกิด อย่างแน่นอน แล้วก็จริงซะด้วย พอผมคลอดปุ๊บ เหมือนตั้งเวลาเอาไว้ รังไข่ของแม่ มันหยุดทำงานโดยอัตโนมัติเลย คิดแล้ว ได้แต่..เสียวแว๊บ...จับใจ...คิดดูสิครับ..พ่อผม เค้ามัวทำอะไรอยู่ ปล่อยให้ผมกับพี่สาวคนก่อนผม ห่างกันตั้ง 16 ปี ต่างกับพี่ชายคนโต พอดีกับวัยเกณฑ์ทหาร 21 ปีบริบูรณ์ …คงอยากรู้แล้วใช่มั๊ยครับ ว่าตอนนั้นพ่อกับแม่ผม อายุเท่าไหร่...ฮ่า ๆ ๆ ขอคำนวณแป๊บนึงเอาแบบคร่าว ๆ แล้วกันนะครับ...เพราะถ้าจะว่ากันแบบเป๊ะ ๆ คงต้องไปค้นเอกสารใบเกิดอะไรอีกอีกวุ่นวาย และถ้าไปถามอากู๋ (google) เรื่องนี้ แกคงไม่รู้แน่นอนครับ....พ่อกับแม่ ผม หางกัน 10 ปี ตอนผมเกิด พ่อ 50 กว่านิดๆ และคงหนีไม่พ้น แม่ผมก็คง 40 กว่านิด ๆ เช่นกัน เห็นมั๊ยล่ะ..ใครลองมาเป็นผมดูสิ...ไม่เสียวแว๊บ ให้มันรู้กันไป ฮ่าๆๆๆๆ
สมัยเด็กๆ ใคร ๆ แถวบ้าน จึงต่างพากันเรียกผมว่า..น้องหลง..คือเป็นลูกหลง น่ะครับ อ้าวจะว่าไป..ตอนเด็ก ๆ ผมน่ารัก นะครับ...ใครๆเห็น ก็รัก ใครเจอก็อยากอุ้ม ใครผ่านไปผ่านมาที่บ้านก็ต้องเรียก หลง ๆ ๆ ๆ กันทุกคนไปเพราะผมเป็นเหมือนของแปลกสำหรับคนแถวนั้นเลยก็ว่าได้...อ๊ะ ๆ แต่อย่างเพิ่งมองความแปลกของผมไปในทางเสียหายนะครับ มันไม่ใช่อย่างนั้น..ที่แปลกก็เพราะว่า ทั้งหมู่บ้านหรือไม่แน่ก็ทั้งตำบลเลยมั๊ง มีบ้านผมอยู่บ้านเดียวที่มีเชื้อสายจีน..นอกนั้นทุกบ้านมีเชื้อสายเป็นชาวสวนทุกคน คงพอคิดออกนะครับว่าแปลกยังไง เด็กตัวอ้วนๆ ตาตี่ๆ แก้มแดง ผิวขาวจั๊ว นี่ คือของแปลกสำหรับคนละแวกนั้นเค้าไม่ค่อยมีอะไรให้เห็น แบบนี้มันเลยดูแปลกตาน่าตื่นเต้น และสมัยก่อนทีวีก็ยังไม่มี ถ้ามีก็ยังเป็นภาพ ขาวดำไม่ค่อยมีอะไรน่ารักๆ ให้ดูเปรียบเทียบสักเท่าไหร่ ถ้าเอาผมไปเทียบกับเด็กเชื้อสายชาวสวนแถวนั้นความน่ารักของ ผมเป็นต่ออยู่หลายขุมครับ ผมเลยกลายเป็นเด็ก ที่ "ป๊อบปูล่า" สำหรับคนแถวนั้นแบบไม่ทันตั้งตัว นี่ถ้าผม..คิดได้ตั้งแต่เด็กผมคงเข้าใจไปแล้วว่า ความรู้สึก การเป็นคนของประชาชนมันจะรู้สึกเป็นยังไง แต่ตอนนั้นรู้สึกแค่เพียงเหมือนตัวเองเป็นเหมือนของเล่น ที่เอาไว้ให้พวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน เล่นโยนรับกัน ประเดี๋ยวคนโน้นอุ้มที เดี๋ยวคนนั้นอุ้มที บางคนก็เดินมาหยิกแก้มเล่นบ้าง แล้วปากก็พูดว่าหมั่นเขี้ยวนัก ...โดยไม่คิดกันบ้างเลยว่า แก้มผมจะเจ็บมั๊ย...ทำอย่างกับผมเป็นตุ๊กตา เดี๋ยวบ้านลุงยืมไปเล่น บ้านป้ายืมไปป้อนกล้วย บ้านยายผ่อน ยืมไปให้ลูกๆ อุ้มเหมือนเล่นเกมส์หัดเลี้ยงเด็ก ในแต่ละวันผมจะต้องวนเวียนไปตามบ้านต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียงวันละหลาย ๆ หลัง นี่แหละครับชีวิตประจำวันของ เด็กป๊อบ อย่างผม ฮ่าๆๆๆๆๆแต่..ในความโชคดีก็มีเรื่องโชคร้ายซุกซ่อนอยู่เช่นกัน ด้วยการเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของบรรดาพี่ป้าน้าอาลุงย่าทั้งหลาย...ไปไหน มาไหน หรือใครไปใครมา ก็ต้องเรียก ไว้ก่อน น้องหลง ไอ้หลง หลงเอ๊ย ว่าไงจ๊ะหลง หลงมาหาป้ามาลูก สุดแล้วแต่ว่าใครจะเป็นคนเรียก แต่ไอ้ที่ว่ามันโชคร้ายของผม ก็คือความซวยที่ ชื่อผม มันดันไปซ้ำ กับหมาในละแวกนั้นหลายตัวนี่สิครับมันเลยรู้สึกแย่ เพราะแถวบ้านผม หมาชื่อ..หลง..มันเยอะมาก แล้วจะไปว่ามันก็ไม่ได้ เพราะส่วนมากมันเกิดก่อนผมเกือบทุกตัว แบบว่าคนแถวบ้าน ถ้าเจอหมาตัวไหน ไม่มีเจ้าของแล้วถ้าเค้าชอบ...คิดอะไรไม่ออก ก็ต้องเรียกว่า..ไอ้หลง..ไว้ก่อน นี่แหละครับ ทำให้ ตอนเด็ก ๆ ผมเลยค่อนข้างสับสน..ไม่รู้เค้าเรียกชื่อผมหรือเรียกหมา ...อยากรู้จริง ๆ ตอนนั้น พ่อผมจะรู้สึกผิดหรือละอายแก่ใจอะไรบ้างมั๊ยนะ......ว่า 16 ปี ที่พ่อเว้นวรรคไม่ยอมทำอะไร ทำให้ลูกชายตัวเองมีปมด้อย และรู้สึกแย่ขนาดไหน
ด้วยสาเหตุตรงนี้หรือเปล่าไม่ทราบได้ครับ..ที่เป็นแรงพลักดันอันยิ่งใหญ่ ให้ความคิดสร้างสรรค์ในตัวพี่สาวผม มีความมุ่งมั่น คิดตั้งชื่อให้น้องชายคนนี้ว่า...ตั๊ดต๋า...เพื่อกอบกู้ความมั่นใจของน้องชายให้กลับคืนมาไงล่ะ..สร้างสรรค์มั๊ยละครับพี่สาวผม..ช่างคิดได้พิสคารล้ำลึก...แล้วจะเล่าให้ฟังว่ามันมีเรื่องที่พี่สาวผมคิดไม่ถึง ในการตั้งชื่อ ๆ นี้ให้น้องชายตัวเอง อยู่หลายอย่าง "ใครไม่เป็นผม ไม่มีทางเข้าใจ ว่าต้องผ่านอะไรมาบ้าง" คิดแล้วก็...เสียวแว๊บ..ทุกทีไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น