...............กับความคิดของผม ที่บางคน คิดว่ามันดี บางที มันก็เกิดจากขออ้าง ใน การคิดเข้าข้างตัวเอง ให้มีความสุข ก็แค่นั้น...........
ชายสุขนิยม...อย่างผมมันมี "ความสุข" เป็นที่ตั้งแล้วก็ทำอะไรตอบสนอง ความสุข ที่ตัวเองปรารถนา...มักจะไปในทุกที่ ที่เป็นสถานที่ๆ ตัวเองชอบ หรือ " ไปที่ชอบ ที่ชอบ " ผมจะบอกให้ตัวเองไปเสมอกับที่แห่งนั้น คือที่ไหน..เราชอบ เราก็ไป หากไม่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องไป จะทำในสิ่งที่ตัวเอง..อยากทำ...เพราะการที่ได้ทำอะไรตอนที่อยาก มันมีความสุขที่สุด ก็ประมาณนี้กับความสุขนิยม อย่างที่ผมพึงกระทำ......และผมก็เป็นคนทำบุญไม่เลือกที่
ทุกอย่างที่ทำลงไปก็คือการทำให้เพราะรัก...อย่ามองความรักในมุมที่แคบ เปลี่ยนใหม่...เอาตัวเองไปอยู่มุมแคบมุมนั้น แล้วเราจะมองเห็นเรื่องของความรัก ในมุมที่กว้างขึ้น มันอาจจะเป็น ความสุขแบบแปลกๆ ของ ผู้ชายแบบต๋า ต๋า ที่พอจะหาได้เอง ....คือความสุขที่..."แค่มีแล้วรู้สึกว่าได้แบ่งปัน"...แค่นี้ ก็อิ่มใจในสุขของตัวเอง“ความสุข”เหมือนกับ”ชุดนอน” ไม่ใช่”ชุดทำงาน”หรือ”ชุดเที่ยว”เพราะเสื้อผ้าที่เราแต่งไปทำงานหรือไปเที่ยวบางทีก็ไม่สบายตัว คับติ้วจนต้องแขม่วพุงก็มี กระโปรงสั้นเต่อ กางเกงขาลีบ ร้องเท้าส้นสูง และอีกสารพัดความทรมานที่ซ่อนอยู่ในความอยากสวย อยากเท่ห์เหล่านั้น เพราะเราให้ความสำคัญกับ เรื่อง“ความสวย-ความหล่อ” เป็นหลัก สายตาที่มองมาของคนอื่นจึงมีผลต่อความรู้สึกของเราแต่ ”ชุดนอน” ไม่ต้องครับ ย้วยเท่าไร เก่าแค่ไหน ก็ไม่ต้องสนใจไม่ต้องสนใจใคร ไม่ต้องการ"คำชม" ขอเพียงแค่รู้สึก”สบาย”เท่านั้นก็พอ ”ความสุข”เป็นเรื่องส่วนตัว ต้องมองจาก"ข้างใน" ไม่ใช่ "ข้างนอก" เราจะมี”ความสุข”ใจของเราก็ต้องสุขเอง ใครจะชม หรือจะสั่งให้เรามีความสุขไม่ได้ “ความสุข” ของแต่ละคนจึงไม่เหมือนกัน ความสุขใคร-ความสุขมัน เมื่อชุดนอนของแต่ละคน ยังมีขนาดหรือความเก่ายังไม่เท่ากัน “ความสุข” ก็เช่นกัน
.......คัดลอกบางส่วนจากบทความ “ชุดนอน..ของชีวิต”โดย หนุ่มเมืองจันท์ นักเขียนหนึ่งเดียวในดวงใจ......
ผมคิดว่า..ความสุขจะมีมากหรือน้อย อยู่ที่ขนาดของการรับรู้และความเข้าใจของตัวเรามากกว่า และความสุข หากเราไม่หามาใส่ให้ตัวเอง คงไม่มีใครเป็นธุระจัดหามาให้ หากหามาได้เราก็อาจจะไม่ถูกใจเพราะเราไม่ได้เลือกเอง...เหมือน เช่นชุดนอนเก่า ๆ ของเรา มันคือความสุขที่เรา ภูมิใจ มันเก่า ยืด ย้วย เพราะเราใช้มันทำให้เราสุขสบายอยู่เป็นประจำและจะเป็นความสุขที่จะอยู่กับเราต่อไปอีกนานหากมันไม่หายหรือกลายร่างเป็นผ้าขี้ริ้วไปซะก่อน..^_^..
อยากบอกว่า...หนุ่มเมืองจันท์ (พี่ตุ้ม) นักเขียนคนนี้...สำหรับผมเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณ ที่คอยสั่งสอนอบรมความคิดให้ผมได้เติมโตมาในแบบที่ใช้ความคิดแก้ไขมากกว่าใช้อารมณ์ตัดสิน เป็นคนสอนให้ผมคิดต่างไปเรื่อยและคิดแตกประเด็นต่อยอด จากสิ่งที่คนอื่นคิดเสมอ จนผมกลายเป็นคนสุขนิยมเพิ่มอีกหลายเท่าตัว ถ้าไม่นับรวมจาก ดีเอ็นเอ ที่ถ่ายมาจากพ่อโดยตรง เพราะคิดอะไรก็เป็นสุข ได้เป็นคนอยู่สุข เพราะอยู่ตรงไหนก็หาความสุขใส่ตัวเองได้ และที่สำคัญผมได้ไปที่ชอบ ๆ ก่อนคนอื่น ๆ เสมอ
และหนุ่มเมืองจันท์ (พี่ตุ้ม) คนนี้...เป็นผู้ชายคนที่ 2 สำหรับผม ที่ทำให้ เกิดแรงบันดาลใจ แล้วแถมยังเอามาให้ผมตั้ง 2 แรง คือแรงในการคิด และแรงในการเขียน(หรือพิมพ์แบบจิ้มดีด )เพราะตลอดเวลาเกือบๆ ยี่สิบปี ที่ได้ติดตามงานเขียน ของหนุ่มเมืองจันท์ ผมได้แง่คิดอะไรดีดี มาเยอะแยะมากมายและทุกครั้งที่มีปัญหาหรือมีเรื่องไม่สบายใจ เค้าคนนี้ คือที่ปรึกษาชั้นเยี่ยม แค่หยิบงานเขียนของเค้ามาสักเล่ม ปัญหาที่เราว่าหนักหนา จะรู้สึกว่าอ่อนเบา กว่าที่เราคิดไปอีกเยอะทีเดียว
ผมจึงอยากจะขอมอบชื่อนี้ เป็น ฉายาเฉพาะสำหรับผม มอบให้ แด่....ผู้ชายคนนี้ ...“พี่ตุ้มหนุ่มสองแรง” วันที่ผมได้กลับมาเจอ หนุ่มเมืองจันท์ อีกครั้ง ใน เฟชบุ๊ค แห่งนี้ ผม รู้สึกดีใจเหมือนกับวัน ที่ผมได้พ่อมาเป็นเพื่อนเพิ่มอีกหนึ่งสถานะ อย่างนั้นเลยจริง ๆ ...ถ้ารู้ว่ามันรู้สึกดีและมีความสุขขนาดนี้ ขอพ่อเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กแล้วจริง ๆ ไม่ปล่อยให้ตัวเองกลัวพ่อมาจนถึงโตแน่นอน เช่นกัน ถ้ารู้ว่า หนุ่มเมืองจันท์หันหน้าเข้ามาสู่ ร่มโพธิ์ ร่มโทร ของสังคมออนไลน์ ในเฟชบุ๊ค แห่งนี้ ก็คงจะหัดเล่นมาตั้งนานแล้วครับไม่ปล่อยให้ตัวเองตกเทรนด์อยู่ตั้งนาน..และของเค้าก็ ดีจริง ๆ ..ขอขอบคุณ มิสเตอร์ มาร์ก ซัก เกอร์ เบิร์ก ที่ทำให้โลกแคบลงจนผมได้กลับมาเจอและได้สื่อสารกับผู้ชายคนนี้อีกครั้ง...สวัสดีและขอขอบคุณอีกครั้งเช่นกันครับ พี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ ที่มอบสิ่งดีดี ให้ผมเสมอมา..ขอบคุณจากใจจริง...น้องต๋า ครับผม
"อยู่อย่างคนสนุกคิด..ดีกว่า..ต้องใช้ชีวิตอย่างโลดโผน" เข้าข้างมันเข้าไป อะไรที่เรียกว่า ตัวเอง
^_^
จีบ คนโสดมีศัตรู..เป็นแสน จีบ คนมีแฟนมีศัตรู..แค่หนึ่ง แต่....อยากบอกว่า...ถ้ามาจีบชายคนนี้ไม่มีศัตรูเลย..แม้แต่คนเดียว แล้วยังมี คนรักเพิ่ม แถมให้อีกตั้งเยอะ^_^ คริคริ...และเรื่องนี้ต้องขอบอกกันเลยว่าว่า...จีบ คนๆ นี้คงไม่ได้ไปเป็นแฟนหรอกนะ...เพราะจีบไป เค้าก็ทำให้ได้แค่...เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับกับคุณ..แค่นั้นเอง
^_^
"เพื่อน"..........เหมือนน้ำ ไม่มีรสชาดแต่ขาดไม่ได้
"แฟน" ..........เหมือนข้าว บางครั้งไม่หิวแต่ก็ต้องกิน
"ชู้" .............เหมือนเหล้า รู้ว่าไม่ดี แต่ก็ช๊อบชอบ
"กิ๊ก"............เหมือนน้ำหวาน นานๆ ทีก็หวานชื่นใจ แต่บ่อยไปก็เลี่ยน เอียน ขม
"แฟนเพื่อน"... เหมือนเหล้าเถื่อน ร้อนแรง แต่อันตราย..
แต่..... "ชายชื่อตั๊ดต๋า" .....อาจจะ ดูเหมือน อาหาร หน้าตาแปลก ๆ แต่หากได้ลิ้มลองหรือสัมผัสรสชาด ก็จะรู้สึกดี และแปรเปลี่ยนเป็น เป็นความสุขใจที่ไม่อาจหาได้จากชายอื่นใดในโลกนี้ ฮ่าๆๆๆๆๆ
^_^
ชื่อ..นั้นสำคัญไฉน...เปล่าเลย.. มันหาได้มีความสำคัญใดใด..แค่..มันจำเป็นต้องมี..เพื่อเป็นสรรพนามแทนความเป็นตัวตน
ชื่อ..ไม่จำเป็นต้องมีความหมายอะไรลึกซึ้ง แต่..มันจำเป็นต้องมีคำจำกัดความเฉพาะชื่อของตัวเองและนี่คือ คำจำกัดความ..เป็นนิยามอย่างยาวแบบไม่ได้ย่อ..ของชายชื่อ ต๋า...คนสนุกคิด..ที่ชอบใช้ชีวิตแบบสุขนิยม..เพราะเป็นคนอยู่สุข..ขอบอกว่าผู้ชาย...คนนี้ชื่อ ต๋า
..ไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษแต่ปาก แค่...เป็นบุรุษที่สุภาพจากข้างใน
..ไม่ใช่คนน่ารัก แต่...เป็นคนที่ควรจะรัก
..ไม่ใช่คนน่ามอง แต่...ถ้าตั้งใจมองก็อาจจะรู้สึกดี
..ไม่ใช่คนดี แต่...ก็ไม่เคยคิดจะเป็นคนเลว
..ไม่ใช่คนอ่อนหวาน แต่...เป็นคนอ่อนโยน
..ไม่ใช่คนสนุกสนาน แต่...เป็นคนอารมณ์ดี
..ไม่ได้บอกมองโลกในแง่ดีหรือมองในแง่ร้ายแต่...ถ้ามองอะไรแล้วมีความสุขก็จะมอง..
ต๋า..อยู่ได้ในทุกๆที่..ที่มีแรงกดดันแต่..อยู่ยากและไม่อยากอยู่ถ้าอึดอัดใจในที่ตรงนั้นที่อยู่..และจะไม่ขออยู่เลยถ้าที่อยู่ตรงนั้น..ไม่ชอบ..เพราะต๋า..ชอบไป ที่ชอบ ที่ชอบ..เท่านั้น..โปรดเข้าใจ..ต๋า..ไว้จะเป็นการดี
My name is..Tatta.... I'm not Perfect BUT I am Limited Edition "
...รู้ตัวเองดี..ว่าไม่ใช่คนสมบูรณ์แบบ เพราะ..เป็นคนที่มีรูปแบบเฉพาะ แล้วก็ไม่ใช่ของแปลก แต่..น่าจะเป็นของหายาก..ที่มีมาเฉพาะแบบใ
นผู้ชายชื่อ..ต๋า..เท่านั้น..โปรด!! ตรองด้วยสติ อย่าด่วนคิดหรือตัดสินโดยที่ยังมีคำว่า..อ
คติ..ไปขวางไว้..หน้าลูกตาตัวเอง
รู้..ว่าการดื่ม มันไม่ดี แต่ ณ เวลานี้ คงลำบากและคงยากที่จะแก้ไข ..เรื่องนี้คงต้องขอไว้เป็นทาน..เพราะเลือกเดินทางสายนี้ซะแล้ว ..รู้ว่ามันไม่ดี..แต่ก็ไม่เคยเอามันครอบงำตัวจนกลายเป็นคนที่ทำเรื่องไม่ดีหรือทำเป็นเรื่องร้ายๆ กับใครๆ..หากทำร้ายก็คงเป็นแค่ร่างกายของตัวเอง..แต่ก็ทำใจไว้แล้ว..ตั้งแต่รู้ตัวเองว่า..เป็นคนทำบุญไม่เลือกที่ และเข้าใจว่าต้องรับสิ่งที่จะเกิดในอนาคตให้ได้... ร่างกายเป็นของที่ยืมมาใช้..เพื่อตอบสนองการเติบโตของ..จิตใจในกายตน..ในเมื่อจิตอยากเป็นสุข..โดยที่ต้องยอมเสียอะไรบางในร่างกายบ้างโดยการเอาสุขภาพดีเป็นตัวประกันหรือไปแลกมา..เพราะในวันนึงร่างนี้ก็ต้องสละสังขารคืนกลับไป..วันนี้..ก็รู้ว่าการทำบุญให้จิตใจเป็นสุขเป็นการลดอายุขัยของตัวเอง..ก็ยอมครับ..แต่จะไม่ขอยอมให้จิตใจเราเป็นสุข..โดยการต้องทำให้คนอื่นเดือดร้อน..อย่างแน่นอน..ด้วยกุศลจิตโดยแท้....(อ่านแล้วดูดี..ที่แท้ก็..เข้าข้างมันเข้าไป..ตัวเอง) ก็สุขนิยม เค้าถ่ายกันมาทางสายเลือด....มันเป็นรหัสพันธุกรรมที่ไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่นิดเดียว..
จิตใจที่แกร่งกล้า..สามารถเอาชนะสังขารที่อ่อนล้าได้เช่นกัน.. เคยเห็นมาแล้วครับ คนที่โดนจิตใจ..ตัวเองทำร้ายร่างกายซะจนย่ำแย่..เธอคนนี้ คือผู้หญิงคนที่ผมรักมากซะด้วย...จากคนที่เคยแข็งแรงเกินวัย..ระยะเวลาเพียงแค่10วัน สามารถทำให้ผู้หญิงคนนึงดูแก่ลงไปได้ถึง10ปี..อย่างไม่น่าเชื่อ..เธอโดนจิตใจตัวเองทำร้ายด้วย..โรคตรอมใจ..ก็จากชายสุขนิยมตัวพ่อนี่แหละครับ..ที่ชิงหนีไปที่ชอบ..แล้วทิ้งความผูกพันเอาไว้ให้อยู่เป็นเพื่อน..โดยไม่ได้บอกว่าจะต้องอยู่กับมันยังไง..ก็เลยทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่แบบไม่ทันตั้งตัว..เห็นมั๊ยว่า มันน่ากลัว..การที่โดนโดนจิตใจตัวเองทำร้ายร่างกาย...และผมก็ไม่อยากเป็นแบบที่แม่เป็นเลยครับ..และก็เคยเห็นเรื่องปาฏิหารย์ของจิตใจที่เอาชนะสังขารของร่างกายเช่นกัน...ใครจะไปเชื่อว่า น้ำต้มผักและสมุนไพร จะรักษาอาการคนที่เป้นมะเร็งระยะเกือบสุดท้ายได้...เพียงเพราะเค้าเชื่อว่า ยานี้ เป็นยาวิเศษ รักษาได้ทุกโรค..ในความเป็น จริงมันคือ กำลังใจที่เค้าให้กับตัวเองมากกว่าเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่..กำลังใจ เป็นเรื่อง มหัศจรรย์จริง ๆ
"สนุกกับความคิด...ก็เหมือนมีกระดาษซับความสุขอยู่ติดตัวตลอดเวลา"
^_^
"ขอให้เจอคนใหม่ที่ดีกว่า” ที่บอกมาน่ะรู้บ้างมั๊ยว่า...มันหายาก ...ทั้งใหม่ ทั้งดี มันยังมีเหลืออยู่อีกหรือไง..ถ้ามีเค้าอยู่กันแถวไหน...ถ้าคิดว่าจะอวยพรกันแล้วก็ควรจะบอกด้วยเลยดีมั๊ย ว่าหาคนๆ นี้จากที่แห่งใดในโลกใบนี้....ให้คิดเองอยู่เรื่อยเลย...ขนาดนมตรามะลิ เค้ายังทำได้แค่...ใหม่ สด เสมอ
^_^
เพื่อนในทุ่งนาป่าคอนกรีตมอบบทกลอนนี้แด่เพื่อนห่างไกล..ผู้อาภัพ
พอคนโง่ ก็มาด่า ว่ามีเขา
อยากรู้จัง ควายอย่างเรา โง่ตรงไหน
มีแต่ทน ทำแต่งาน ลากไถไป
แล้วน้ำใจ ในบุญคุณ ไม่เห็นมี
ทุกวันนี้ คนจะรู้ บ้างหรือไม่
ว่าควายไทย เค้าก้าวไกล แค่ไหนหนา
ทั่วโลกออก สนธิบัตร เป็นสัญญา
ควายอย่างข้า คือควายไทย ใกล้สูญพันธุ์
อยากบอกคน ที่คิดตน ว่าฉลาด
อย่าปรามาส มองความควาย นั้นโง่เขลา
ไม่มีควาย ทนอย่างข้า คงต้องเอา
ควายอย่างคน ลากคันไถ ทำนาแทน
มีคนชอบพูดกันว่า......
"มึงมันโง่เหมือนควายให้คนอื่นมาเดินจูงจมูก" ผมอยากบอกแทนควายเหลือเกินว่า.....
"บางทีควายอย่างข้า ก็ไม่ได้โดนใครจูง ภาพที่เห็นมันเป็นเพียง...คนที่ถือเชือกเดินนำหน้าควายอย่างข้าแค่นั้นเอง...และ..ข้าก็ไม่ได้อยากเดินแซงหน้าคน..เพราะข้าไม่รู้ว่า..จะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร"
แล้วถ้าหากเป็นคนแล้วดี มีคุณค่าในตัวจริงจริง แล้วตัวอักษร ค ที่มีหยักด้านบนมันหายไปไหน...ทำไมไม่เอากลับมาใช้ คนอย่างคุณมาใช้ทำไมตัวอักษรของ...ค.ควาย
......ขอจงสุขสวัสดีแต่ควายไทย ที่ครอบครองสนธิสัญญา ไซเตส ทุกตัว.....
ด้วยจิตคาราวะ....จากเพื่อนในทุ่งนาป่าคอนกรีต
^_^
มีความต่างคิด..เป็นสันดาน แล้วชอบเอาไปวางที่คนอื่น..จนเป็นนิสัย(เสีย) หากใครอยากด่าอยากว่า..ไม่เป็นไร เราน้อมรับทุกอย่าง..ด้วยเต็มใจและยินดี .... เพราะเรารู้ ความปรารถนาดีที่ปราศจากความต้องการเค้าเรียกว่าอะไร...(สระเอ..ส เสือ..สระ เอือ..อ อ่างและตัวสะกด) ฮ่าๆๆๆๆๆๆ^_^
“คนไม่มีแฟน” ฟังเพลงนี้ที่ไร..รู้สึกอยาก "อกหักล่วงหน้า" ทุกที...รบกวนคนโสด..สักคนบนโลกใบนี้มาทำให้อกหักสักที..จักขอบพระคุณ ยังไงก็ขอแบบน่ารัก ๆ นะ..เค้าว่ากันว่า อกหัก จากคนน่ารัก จะรู้สึกดีกว่ากันเยอะ ฮ่าๆๆๆๆอย่างน้อย..การอกหัก..ก็ทำให้เราได้ผ่านอะไรมาตั้งเยอะ...ได้ชอบใครสักคน ได้คิดถึง ได้เป็นห่วงเป็นใย ได้ดูแล ได้ใส่ใจ ได้รัก และได้มี”ความรัก”เป็นของตัวเอง ... แต่พอ..อกหัก..ก็ได้มาแค่เสียใจ..อย่างเดียวเอง ชิว ๆ กันไป ไม่ซี...แถมก่อนที่จะอกหัก เรายังได้สถานะความเป็นคนเพิ่มมาอีกตั้งหลายอย่าง...ได้เป็นคนมีความรัก เป็นคนมีแฟน เป็นคนอกหัก แล้วก็กลับมาสู่สถานะปัจจุบัน...เป็นคนไม่มีแฟนเหมือนเดิม 555555 แค่คิดก็รู้สึกตื่นเต้นบอกไม่ถูกแล้ว คริคริ..^_^..อย่างนี้..ทำไม ไม่อยากอกหัก ดูสักที ดีกว่าอยู่เฉยๆ หายใจทิ้งไปวันๆ คริคริ
ทุกชีวิต...เกิดมาเพื่อให้มีช่องว่างของ(..........)ชีวิตเสมอ..เพื่อรอให้ใครสักคนมาเติมคำที่ถูกต้องลงในช่องว่าง...เมื่อช่องว่างได้เติมคำ ชีวิตก็ได้เติมเต็ม...แล้วเราก็เรียกความสมบูรณ์ของสิ่งนี้ว่า..."ชีวิตคู่"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น