http://www.facebook.com/IamTatta

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

เหตุผลที่ผม..จะเข้าวัดเพราะว่า?

......นี่คือเหตุลหลัก ๆ เท่าที่หามาได้ จากการที่จะต้องเข้าวัดของตัวเอง ว่าเพราะอะไร.....
    
ประการแรก...ถ้าต้องเข้าวัดเพื่อไปบวช...สำหรับผมคงไม่ดีแน่ เพราะผมรู้แก่ใจเลยว่าถ้าผม บวช ต้องมีหลายคนเสียใจ แล้วถ้าผมจะหันหน้าสู่ร่มกาสาวพัตร์ โดยที่ต้องทำให้คนเสียใจ..ผมคงไม่ได้บุญจากการบวชครั้งนี้..และคนที่เสียใจแน่ ๆ ก็คือเพื่อนผมหลายคน..ชีวิตมันคงลำบากมากขึ้น...เพราะเพื่อนกินเหล้าคนสำคัญจะหายไปจากชีวิตมัน 1 คน...เชื่อผมเถอะว่า 1 คนสำหรับช่วงเวลานี้มันมีความหมายมาก เพราะยิ่งอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อนชวนกันออกไปกินก็ยิ่งหากยากขึ้นตามลำดับของอายุ  ผมเคยนึกสนุกลองโทรนัดเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนมัธยมแบบโทรไม่ได้บอกก่อนล่วงหน้า ผมโทรหาประมาณ 10 คน ผลที่ออกมาและสามารถออกมากินด้วยกันได้ มีแค่ ไม่ถึง 3 คนลองเป็นสมัยช่วงเรียนมหาลัยสิครับ..แค่ บอกไป 2  รับรองได้เลยว่า งานนี้มีไม่ต่ำกว่า 10 คนอย่างแน่นอน...สำหรับผมเองเวลานี้..เพื่อนที่มีอยู่ คงให้สถานะแค่เพื่อนคงไม่..คงต้องยกระดับกันให้เป็น..ของสะสมชั้นดี...ฮ่าๆๆๆๆ

      ประการที่ 2. ถ้าให้เข้าวัดเพื่อไปทำบุญ....นี่ก็คงลำบาก เพราะเวลาของผมกับพระไม่ค่อยจะตรงกัน...เพราะช่วงที่พระดำเนินกิจวัตรสงฆ์เป็นช่วงเวลาที่ผมกำลังเข้าเฝ้าพระอินทร์...พอพระเริ่มจำวัด ชีวิตในวันใหม่ผมเพิ่งจะเริ่มต้น เวลาของเราไม่ตรงกันจริง ๆ แต่ผมก็ชอบทำบุญนะ..ก็เลยต้องศึกษาว่ามีช่องทางอื่นอีกมั๊ยที่ทำบุญโดยไม่ต้องง้อพระหรือต้องเข้าวัด...แล้วความรู้แจ้งก็บังเกิด พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า..การทำบุญคือการทำจิตใจให้เบิกบาน...เท่านั้นแหละ ผมเลยเป็นคนทำบุญไม่เลือกที่....ฮ่าๆๆ

       ประการที่ 3. หากเข้าวัดเพราะตาย...อันนี้ผมไม่ปฏิเสธแน่นอน วันนึงผมต้องไปแน่ๆ แต่ยังไม่ใช่เวลานี้ คงต้องรออีกสักพักใหญ่หรืออีกนานทีเดียว...เพราะเรื่องแบบนี้ผมไม่รีบ...ผมเคยรู้จักผู้หญิงคนนึงมาแล้วที่รีบมาก หนีตามสามี โดยทิ้งอายุที่เหลือแบบไม่สนใจจะใช้ต่อกันเลย และ ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่เคยปรึกษาลูกๆ ของเธอเลยว่ายอมให้ไปหรือไม่...แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังครับ...ว่าเธอผู้นี้คือใคร

        ประการที่สุดท้าย...อยากบอกว่า...ช่วงเวลา 2-3 ปีให้หลังมา เหตุที่ผมได้เข้าวัดบ่อยที่สุด คือการเข้าไปหาที่จอดรถ...เพราะวัดในกรุงเทพเป็นสถานที่เดียว ที่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการนี้...แต่ตอนที่ผมเข้าไปจอดรถ ผมก็เข้าใจและรับรู้นะครับว่า...วัดเป็นสถานที่ ที่สงบร่มรื่น...แต่..ผมก็รู้ตัวอยู่ในที...ว่าที่นี่..ไม่เหมาะกับผมอย่างแน่นอน...

         อย่าซีเรียสกันนะครับ..ก็บอกแล้วว่า...ผมมันเป็นคนสนุกคิด..ชอบใช้ชีวิตแบบสุขนิยม เป็นคนทำบุญไม่เลือกที่ ถ้าเรื่องไหนทำให้จิตใจตัวเองเป็นสุขและไม่มีใครเดือดร้อน ผมไม่เคยเกี่ยงที่จะทำ...และสำหรับผมคงไม่มีอะไรเป็นสุขมากกว่า การทำอะไรตอบสนองความอยากของตัวเอง และผมก็เป็นคน ไปที่ชอบ ที่ชอบ อย่างสม่ำเสมอครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น