http://www.facebook.com/IamTatta

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554

แหล่งธุดงค์ ปักกลด ยามค่ำกับน้ำสีอำพัน BAKU together

ร้านบากู..คือสถานร่าเริงยามราตรี ในย่านรัชดาซอย4 เป็นสถานที่ๆ ให้ผมได้พักพิงบำเพ็ญเพียร สงบจิตใจที่อ่อนล้า..เหน็ดเหนื่อยจากการถูกกระทำให้บอบช้ำทางจิตใจ..ให้ผมได้ปักกลดจากการรอนแรมธุดงค์เดินทาง มีเวลาได้เข้าไปศึกษาธรรมในขวดน้ำสีอำพันอีกครั้ง...เมื่อได้บำเพ็ญเพียรอยู่ในบากู สักระยะนึง จึงเริ่มสัมผัสอะไรบางอย่างในความเป็นบากู..และได้เข้าใจอะไรมากขึ้นในความเป็นตัวตนของผู้ชายชื่อแป๊ะ...เจ้าของร้านบากู               
          แป๊ะ..เป็นคนทำงานที่มีความตั้งใจสูงมากคนนึง...จัดได้ว่าขยันทีเดียวไม่เช่นนั้นแล้ว ผู้ชายตัวกลมๆ ไว้หนวด มีเครา ใส่แต่กางเกงสามส่วนมาเกือบตลอดชีวิต (เป็นผู้ชายที่มีความคอนทราสต์ในบุคลิกภายนอกสูงมากไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า หน้า ผมและแว่ตา)..คงไม่สามารถพา ร้านบากู อยู่ยั้งยืนยงมาได้นานถึง9 ปี เป็นอะไรที่น่านับถือมากนะครับสำหรับอายุของสถานร่าเริงยามราตรีที่มีอายุย่างวัยชราเช่นนี้..เท่าที่ผมสังเกตุ แป๊ะคนเป็นคนที่มีหัวค่อนข้างครีเอทีฟ มีความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนใช้ความคิดจัดว่าเยอะทีเดียวแต่สัดส่วนในความคิดของแป๊ะ..กว่า70% เป็นเรื่องของการคิดแก้ปัญหา..ฟังดูดีใช่มั๊ยครับ..แต่ ไม่ใช่อย่างที่คิด..แป๊ะมักจะเป็นคนที่ชอบคิดแก้ปัญหากับเรื่องที่ยังไม่เกิดแต่แป๊ะจะคิดก่อนล่วงหน้าไว้เลยว่ามันจะต้องมี..เรื่องอะไรที่คนอื่นคิดไม่ได้แต่แป๊ะสามารถคิดออกมาได้เสมอ..มันเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่เกิดจากความคิดมากและคิดเล็กคิดน้อยมารวมไว้ด้วยกัน...สุดยอดจริงๆ               

            แป๊ะ...เคยถามกับผมว่า.."พี่ต๋า..ผมชอบวิธีการเล่นคำของพี่มากเลย..ทำยังไงให้ผมคิดประโยคอะไรแบบที่พี่คิดได้บ้าง"...ผมก็ตอบทันทีว่า "ไม่ยาก ทุกอย่างอยู่ที่การเรียนรู้และฝึกฝน..เพราะตอนเกิดพี่ก็ทำแบบนี้ไม่ได้ ทำไม่เป็นเหมือนกัน" พูดจบแป๊ะยืนมองหน้าผมนิ่งสีหน้างงๆและคงคิดในใจ



"นี่กูถามดีดีทำไมต้องตอบกวนตีนแบบนี้วะ" ผมเลยคิดต่อจากความคิดในใจของแป๊ะ"ก็กูพูดเรื่องจริง ทำไมกูพูดไม่เข้าหูเมิงจะเอามนุษย์สายพันธุ์ GRARD หน้าร้านเมิงมาเล่นงานกรูหรือยังไงหึ" ยังไม่ทันคิดจบดี..ทุกสิ่งก็พลันสลายไปเพราะเสียงดังที่แหวกอากาศมากระทบกลางวงสนทนาพร้อมมือที่พนมนำหน้ามากระทบที่ไหล่ผมอย่างแรง"พี่ต๋า..สวัสดีค่า"...มันคือเสียงที่รวมมาพร้อมกับกริยาของ หญิงสาวนางหนึ่ง ที่ใครๆ ในร้านบากู เรียกเธอว่า...เจ๊ปลา..ภรรยากึ่งแฟนสาวของแป๊ะนั่นเอง(ที่เรียกเช่นนี้ก็เพราะเค้า2คนยังไม่ได้แต่งงานแต่ปลาก็ทำอะไรได้มากกว่าคำว่าแฟนเยอะ).
              ปลา...เป็นผู้หญิงที่น่าเลื่อมใสมีความตื่นตัวสูง ผมไม่เคยเห็น ปลา หยุดยืนนิ่งๆ สัก1นาทีได้เลย..เธอจะต้องทำโน่นทำนี่ได้ตลอดเวลา..ผมเคยถามแป๊ะว่า "แป๊ะ..ถามจริงๆ นะว่าปลามันเคยอยู่นิ่งๆนานสุดได้แค่ไหน" แป๊ะนิ่งได้สักเสี้ยววินาทีก็ตอบว่า "ไม่รู้สิพี่..ตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยเห็นเลยนอกจากตอนหลับ" ผมคิดในใจ..นี่คงเป็นบุพเพ สรรค์สร้างที่ให้เค้าทั้งสองมาเป็นคู่กัน..คนนึงใช้ความคิดอีกคนก็ออกActionช่างสมกันจริงๆ ช่องว่างที่ขาดหายของกันและกัน
                นอกจาก Action แล้ว..เรื่อง Acting ของเจ๊ปลา คนนี้..นี่ก็ไม่ธรรมดา..ไม่ว่าหล่อนจะแสดงอาการดีใจ ตกใจ แปลกใจ..อาการและสีหน้าของเจ๊ปลาจะแสดงออกมาได้ เยอะกว่าคนอื่นเสมอ ถ้าบอกว่าปลาเคยผ่านการเล่นละครเวทีมาแล้วก็คงไม่มีใครไม่เชื่ออย่างแน่นอน เพราะมันเป็นกริยาของคำว่า Over Acting....        
                แต่...มีอยู่สิ่งนึงที่ผมสัมผัสๆได้ในความเป็น บากู..ที่ผมไม่ค่อยได้เห็นบ่อยจาก...สถานร่าเริงยามราตรี..ที่อื่นๆ..คือ ภายในนี้ มันมีความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า เด็กเสริฟ กัปตัน ดีเจ นักดนตรี..หรือแม้แต่มนุษย์สายพันธุ์ Guard หน้าร้านทั้งหมดนั้นมีการปฏิสัมพันธ์สื่อสารแบบเป็นกันเองไม่มีพิธีรีตรองมากมาย หรือแม้แต่กับเจ้าของร้านเองก็เข้าถึงกับลูกค้าได้ทุกคน...ผมว่านี่แหละเป็นสิ่งที่..สถานร่าเริงยามราตรี ทุกที่ควรจะมี ไม่ใช่แค่มีเหล้าขาย มีดีเจ มีวงดนตรี..และมีแสงสีวูบวาบ..ที่สำคัญเลยผมคิดว่า...คงด้วยความคิดมากผสมคิดเล็กคิดน้อยของแป๊ะนี่แหละ..น่าจะไปเปลี่ยนแปลงโครงสร้างยีนส์และโครโมโซมของ มนุษย์สายพันธุ์ Guard หน้าร้าน..ทำให้พวกเค้าดูสุภาพ อ่อนโยนจนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา..ว่าในชีวิตเกิดมาจะมีโอกาสได้พบเจออะไรแบบนี้..ถือว่าเป็นบุญตาทีเดียว..และคงเป็นวาสนาของลูกค้าบากู ฮ่าๆๆ             

                อยู่มาวันนึง แป๊ะ..เดินมาหาผมแล้วบอกว่า "พี่..รบกวนหน่อยสิ".   ."มีเรื่องไรเหรอแป๊ะ ว่ามา" สีหน้าแป๊ะค่อนข้างจริงจัง"คืองี้พี่....................................................!!" แบบว่า แป๊ะเป็นคนที่อะไรเล่ามา จะยาวมากเป็นพิเศษ จะพิมพ์ให้ครบคงลำบากและถ้าครบผมคิดว่าหลายคนต้องมี งง กับเรื่องที่แป๊ะเล่าเรื่องยาวมาทั้งหมดแน่  แต่ผมพอสรุปใจความสั้นๆ ให้ได้ดังนี้..          

                ครั้งนึง แป๊ะเคยอ่านบทกลอนที่ผมเขียนเก็บๆ เอาไว้  ก็เลยอยากให้เขียนกลอน แต่งให้พ่อตัวเองเล่าเป็นเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดกับพ่อ คือว่า เมื่อคืนก่อนพ่อของแป๊ะไปกินเหล้ากับเพื่อนแล้วเมามาย กลับมาบ้านตาปูดแว่นแตกแหวนเพชรหาย แต่จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แป๊ะเลยคิดอยากให้ผมแต่งกลอนระบายความในใจของพ่อ  ผมอุทานเสียงดังในใจ.....“ไอ้แป๊ะ กรูก็รู้ว่าเมิงน่ะ มีหัวครีเอทีฟ แต่ก็ไม่น่าจะคิดอะไรพิเรนทร์ได้ขนาดนี้.”..ว่าแต่อีกมุมนึงในใจมันก็สะกิด..น้องมันอุตส่าห์พิเรนทร์ขอเรา..งั้นต๋าก็ขอทะลึ่งเขียนให้ก็แล้วกัน ฮ่าๆๆๆๆ

จึงเกิดเป็น บทกลอนระบายความในใจ....จากพ่อถึงทุกคน

มีความใน อยู่ที่ใจ อยากเอาออก
อยากจะบอก ได้เล่าความ คลายสงสัย
เหตุที่พ่อ ไปคืนนั้น แล้วเมามาย
พ่อไม่ได้ จะตั้งใจ อยากให้เป็น

คือแบบว่า พ่อนั้นหนา แค่อยากดื่ม
แค่อยากลืม คิดเรื่องงาน ที่หมักหมม
อยากเจอเพื่อน อยากสังสรรค์ เพื่อสังคม
อยากประโลม ให้จิตใจ ได้ครื้นเครง

พอไปถึง ตรงที่งาน เจอเพื่อนเก่า
ได้ดื่มเหล้า ได้เล่าความ เรื่องความหลัง
ได้ดีใจ ได้เฮฮา เลยบ้าพลัง
เลยพลาดพลั้ง ดื่มลืมตัว ว่าเกินวัย

ขณะดื่ม พ่อเฝ้าเตือน ว่าต้องยั้ง
แต่บางครั้ง มันก็พลาด ว่าแค่ไหน
ดื่มไปเรื่อย ดื่มแล้วมันส์ ดื่มเรื่อยไป
พอนึกได้ ไอ้ชิบหาย พ่อเริ่มเมา

ไม่เป็นไร ยังพอได้ ไม่ขับรถ
ไม่ต้องทด สอบความเมา หน้าด่านไหน
หมดภาระ ไร้กังวล เลยย่ามใจ
ที่ไหนได้ รู้อีกที พ่อโคตรเมา

เลยหยุดพัก จัดลำดับ ให้ความคิด
พักสักนิด ถามตัวเอง ว่าแค่ไหน
แล้วก็บอก ว่าแค่นี้ สบายสบาย
ยังดื่มได้ เพราะเข้าใจ ในตัวเอง

หลังจากนั้น แค่ไม่นาน เกินนับสิบ
แล้วชีวิต ก็ผันแปร แลที่เห็น
พ่อไม่น่า ตามใจตัว แบบเคยเป็น
แล้วประเด็น แบบเดิมเดิม เพิ่มอีกครา

พ่ออยากบอก แม่กับลูก พ่อรู้สึก
พ่อสำนึก ที่พ่อทำ มันเสียหาย
พ่อสัญญา กับทุกคน ต่อนี้ไป
รับรองได้ จะไม่ทำ ให้รู้เลย....

จากพ่อ ถึงทุกคน 555         
         

         เมื่อทุกคนได้อ่าน ถึงกับขำกลิ้งกันทุกคน แม้แต่ตัวพ่อเองก็ตาม...ตอนที่แป๊ะมาบอกผมว่าพ่อได้อ่านกลอนแล้ว ผมเองค่อนข้างจะวิตกอยู่พอสมควรเกรงว่าพ่อของแป๊ะ อาจจะไม่พอใจที่เขียนอะไรไปแบบนั้น แต่ที่ไหนได้..แป๊ะกลับบอกผมว่า..

.”พี่ พ่อผมอ่านแล้ว...แกโคตรชอบเลยว่ะ...แกเดินขำทั้งวันเลย...เออ แกฝากมาขอบคุณพี่ด้วยนะ..บอกว่าเขียนได้โดนใจมาก”  ผมก็ได้แต่อึ้งไป แล้วก็คิดในใจ เออ..แปลกดี...สงสัยคนบ้านนี้เค้าอารมณ์ดีกันทุกคน...เท่านั้นแหละ...ต่อมสนุกคิดของผมเริ่มทำงานอีก1 รอบแต่รอบนี้ มันมีอิสระมากกว่าเดิม...ขอเขียนอะไรให้กับคน ๆ นึง ในร้านบากูก็แล้วกัน คน ๆ นี้เป็นพนักงานอยู่ในร้านบากู น่าจะเป็นพนักงานที่ทำงานอยู่กับแป๊ะ นานที่สุด ....แต่ไม่เคยได้เลื่อนตำแหน่งใดใดเลย ที่ได้เพิ่มก็แค่...ความไว้วางใจจากแป๊ะก็แค่นั้นเอง ....ผมเลยคิดสนุกแต่งขึ้นมาเป็นกลอนระบายความในใจให้กับ หญิงไทยหัวใจชาย..อย่างคนชื่อเอ้

๏..กลอนสบถเดียจฉันท์ บอกให้โลกรู้ว่า ตัวข้าคือ..เอ้ บากู...๏

เพราะมันคือกลอนสบถเดียดฉันท์ ความสะใจของมันจึงอยู่ที่ภาษา อย่าคิดว่าหยาบคาย แต่มันคืออารมณ์ที่ซ่อนไว้ในบทกลอน

กูทำงาน อย่างคนทน มึงกร่นด่า
แล้วมึงหา ดีอย่างกู ได้ที่ไหน
คิดให้ดี คิดให้ซึ้ง ในหัวใจ
มึงจำไว้ คนอย่างกู คือเอ้เอง

ใครไม่เป็น เช่นอย่างกู ไม่รู้หรอก
ก็อยากบอก ให้พวกมึง เลิกสงสัย
กูนี่แหละ คือตัวเอ้ บากูไง
จงเข้าใจ และโปรดจำ คำให้ดี

มึงสั่งงาน ให้กูทำ ไม่เคยคิด
ลองสักนิด ถามกูบ้าง ทำได้ไหม
กูก็ทำ ในตามแบบ ของกูไง
แล้วทำไม มึงมาด่า กูไม่ดี

มึงคิดเอง เออเอาเอง กูทำได้
แล้วยังไง กูก็ทำ ตามสั่งมั๊ย
พองานเสร็จ มึงเสือกด่า ทำเชี้ยไร
ไอ้จังไร  มึงใช้คน ไม่ดูงาน

มีใจความ อยู่อย่างนึง อยากให้รู้
ว่าตัวกู ทำอะไร ได้แค่ไหน
กูไม่รู้ ว่างานดี เป็นยังไง
แต่กูรู้ กูทำไป ทำเพื่อมึง

มึงด่ากู ว่ากูโง่ กูไม่ว่า
กูเคยด่า ว่ามึงโง่ สักครั้งไหม
กูให้เกียรติ เพราะเห็นมึง เป็นเจ้านาย
แล้วทำไม มึงไม่คิด พึงสังวรณ์

มึงให้งาน กูมาสิบ เสร็จตั้งสอง
มึงก็มอง ว่ากูทำ ช้าชิบหาย
กูว่าแล้ว กูวางแผน ทำแทบตาย
ไม่เข้าใจ ว่าวางแผน เสียเวลา

กูอยู่นาน มึงก็บ่น ทนชิบหาย
แล้วยังไง มึงจะหา ใครได้เท่า
โง่กว่าคน ทนกว่าแรด มึงเลือกเอา
แล้วจะเหงา ถ้าไม่เอา กูทำงาน

คิดแล้วเศร้า ได้แต่เฝ้า สงสารบอส
มันจะรอด หลุดความคิด นี้ได้ไหม
แต่เพราะรัก ก็ต้องทน ยอมมันไป
ใช้เข้าใจ เก็บอารมณ์ ทนเพื่อมัน....

 จากใจชายเลือดผสม ที่ชื่อ เอ้ บากู!!!!!เฮ้อๆ มนุษย์หนอ มนุษย์...สายพันธุ์เจ้านายใช้สันดานเหมือนกันหมด

ของฝากจากบากู
"คิดแก้ไข...เมื่อมีปัญหาเข้ามา...แต่อย่า...คิดก่อนล่วงหน้าว่าปัญหาจะต้องมี" สนุกคิดมันเรื่อยเปื่อย...มีความสุขมันเรื่อยไป….เพราะชีวิตมีไว้ใช้ ไม่ได้มีไว้เพื่อถนุถนอม และ สิ่งที่ควรถนุถนอมคือ...คนที่อยู่ร่วมในชีวิต...

 คืนนี้หากคิดว่าจะโดนความเหงาลอบทำร้าย..แวะมาเติมสารละลายความเหงาที่..บากู..โปรโมชั่นพิเศษ!!!แถมความมันส์ให้ฟรี..ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น