http://www.facebook.com/IamTatta

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

หลากคำคม กับ สุขนิยม อารมณ์ เฉพาะกิจ

๐๐๐๐---- หลากคำคม กับ สุขนิยม อารมณ์ เฉพาะกิจ ----๐๐๐๐
..........ขำขัน วันอาทิตย์ แด่ มหามิตร แฟนเพจ คำคมฯ............
๐๐๐..ตอน..๐๐๐ "ชีวิตมีกรรม ของมนุษย์ลูกจ้างสายพันธ์ลูกน้อง ที่ต้องถูกจองจำในทัณฑสถานหัวใจ(เมีย)"
.....................
๐๐-- ขี้เกียจเป็นสันดาน...ไม่อยากทำงานเป็นนิสัย..แต่เป็นเพราะมีคำว่า.."เดตไลน์"
..ปุ่มขยันในร่างกายจำต้องเปิดสวิทต์ในทันที --๐๐
...นี่แล้ว...อารมณ์ขยัน(มันหายไปไหน) มันยังเหลือไว้ให้ใช้ บ้างมั๊ยเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆ
.....................
๐๐๐-- ความผิด ของคนอื่นเรามองเห็นใหญ่เท่า ภูเขา แต่กับ ความผิด ของเรากลับมองเห็นเล็กแค่ เส้นผม --๐๐๐
(แปลกแต่จริงทั้งๆ ที่เป็นเรื่องเดียวกัน...มิน่าล่ะ..."เส้นผมถึงไปบังภูเขาได้" เพราะมันใหญ่เท่ากัน) ...ฮ่าๆๆๆๆๆ สุขนิยม อารมณ์ เสียดสี
.....................
๐๐๐-- รู้ทุกอย่าง ยกเว้นงานในหน้าที่ ไปได้ทุกที่ยกเว้นที่ทำงาน --๐๐๐
...(แล้วมันไปไหนของมัน)
.....................
๐๐๐-- ทำได้หมดยกเว้นที่นายสั่ง..แต่..ทำได้ทุกครั้งที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง --๐๐๐
(เออมันเก่งดี น่ามอบโล่ห์ ไปโขกหัวสักที)
.....................
๐๐๐-- อาจทำได้ไม่หมดทุกอย่างที่นายสั่ง แต่ ต้องทำทุกครั้งที่แม่(เมีย)สั่งมา --๐๐๐ (กลัวเมียนี่หว่า)
.....................
๐๐๐-- ไม่ได้เป็นคนกลัวเมีย แต่ ให้เกียรติในตำแหน่งหน้าที่ เพราะเธอคนนี้ เปรียบเสมือน...ผู้บัญชาการชีวิต --๐๐๐
(อ๋อ รู้แล้ว ว่าไม่กลัว แต่ เมิงไม่กล้าหือนี่เอง)
.....................
๐๐๐-- หากยังอยากมีอิสระในชีวิตบ้างในบางครั้งและบางคืน แบบชายชาตรี ก็ต้องรู้ดีว่า สตรี นางใด ไม่ควรค่าแก่การละเลย จำเป็นที่ต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ --๐๐๐
(นั่นเมีย หรือว่า ผู้คุมนักโทษกันแน่วะ)
.....................
๐๐๐-- เมีย เปรียบได้ดั่ง นางฟ้าอวตาร ที่ลงมาจุติ เราสมควรเคารพและบูชา --๐๐๐
(อ๋อ ได้เมียเป็นนางฟ้า มิน่าล่ะ ถึงได้ เป็นอมตะ แก่ง่าย แต่ ไม่ยอมตายสักที รู้ไปฟมด จับผิดได้ทุกเรื่อง เอาแต่ใจชอบใช้อำนาจในทางที่ผิด คิดใช้วาจาข่มขู่ด้วยของมีคมผสมกับเสียงเป็ด ก้าบ ๆ ๆ) ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
..................... จบบริบูรณ์ ...................


วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

"โครงการก่อสร้าง สมาคมคนชั้นสูง" Higher Society ของ คนบนคาน

  ก่อนอื่น จะขอพรรณนา...บรรยากาศที่อยู่ของตัวเองให้รับทราบกันไว้ก่อน....ผมอาศัยอยู่บนคานไม้ธรรมดาไม่ได้เลิศหรูอะไร ระดับความสูง ยังไม่ค่อยน่าหวาดเสียว อากาศดี ทิวทัศน์ร่มรื่น อยากได้ความสงบได้ อยากได้อากาศบริสุทธิ์ก็มีตลอดเวลา...แต่ปัญหาใหญ่ของมัน คือ...มันอยู่ได้คนเดียว...  เคยเผลอลืมตัว ให้คนมาอาศัยร่วม คานถล่มทันที...ก็รู้อยู่ ว่าตกจากที่สูงมันเจ็บ แต่จะโทษใครได้ ไม่ได้ระวังตัวเอง...คราวนี้เลยเข้าใจ..ว่าครั้งต่อไป...ไม่ต้องขึ้นมาหา..แค่กวักมือเรียกขึ้นมา เดี๋ยวจะลงไปหาเอง ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
                แต่ในเมื่อมีคนอยากอยู่บนนี้กันเยอะ...ถ้าอย่างงั้น...ผมจะสร้างให้เป็นแบบนี้ก็แล้วกัน ไม่รู้ว่าจะชอบกันมั๊ย....จะสร้างให้เป็นชมรม...ส่วนเรื่องวัสดุก่อสร้างคงเอาไว้ก่อนต้องดูที่ปริมาณคนที่จะเข้ามาอาศัย...ค่อยมาเลือกกันที่หลังตามความเหมาะสม..และชมรมที่จะสร้างให้นั้น..จะใช้ชื่อชมรมว่า...."สมาคมคนชั้นสูง"...คือ จะได้มีสถานะ อยู่สูงกว่าคนที่มีคู่ครองแล้วเสมอ เพราะคนเหล่านั้นยอมลดตัวลงมาเพื่อเรียนรู้การมีความสุขแบบชีวิตคู่ โดยที่ยอมทอดทิ้งคนกลุ่มใหญ่ในสมาคม....ชิวิตประจำวันก็ไม่มีอะไรมาก แค่นั่งดูชีวิตคู่ของคนอื่นอย่างมีความสุขและคอยช่วยปรับทุกข์กับคู่ที่มีปัญหาในฐานะที่เรามีความเข้าใจมากกว่า  ย่ามว่างเราก็มาสนทนา...เรื่องทำกิจกรรมพิเศษ ให้ญาติผู้ในบ้านพักคนชรา สร้างสรรค์ไว้เพื่อตัวเองในอนาคต...และที่ขาดไม่ได้...พวกเราต้องจัดนิทรรศการสร้างเสริมความเข้าใจ สำหรับคนในสมาคมอย่างสม่ำเสมอ เพราะคนส่วนมากในสมาคมอายุอยู่ในเกณฑ์ที่เกิดสภาวะซึมเศร้า ท้อแท้ได้ง่าย..เราต้องให้เพื่อนๆ ในสมาคม ทุกคนเข้าใจว่าที่เรามารวมตัวกันในที่นี้...ไม่ใช่เพราะว่าเราแปลกหรือไม่มีคุณค่าแต่เรายังหาสิ่งที่เหมาะสมไม่ได้...และหากมีวันใด มีใครทีจะลาออกจากสมาคม ที่จะต้องลงไปใช้ช๊วิตอยู่ข้างล่าง..เราต้องสนับสนุนไม่ใช่อิจฉา...แต่เราต้องช่วยเป็นหูเป็นตาแล้วให้กำลังใจ...เพราะพวกเราต่างเข้าใจกันเป็นอย่างดี...ว่ารถไฟที่มารับเพื่อนเราไป..นั่นคือรถไปขบวนสุดท้าย...ถ้าพลาด...ความซวยน่าจะถามหา...และอาจจะต้องกลับขึ้นมา...ทำสัญญาขอให้พื้นที่ในสมาคม อาศัยอยู่เป็นการถาวร...ซึ่งพวกเราคงไม่สบายใจกันเท่าไรนัก ฮ่าๆๆๆๆ

                หากใครสนใจเข้าร่วมสมาคม ติดต่อได้ที่นี่  http://www.facebook.com/ChomRomYouSook


พอเห็นคน  ลงจากคาน  ขวัญผวา
หรือชะตา   ฟ้ากำหนด  ให้ทั้งสอง
ต้องพลัดพราก  จากความโสด  ที่ถือครอง
ร่วมปรองดอง   มารวมใช้   หัวใจเดียว

ขอดีใจ   และขอให้   คนทั้งคู่
ได้ร่วมอยู่  ใช้ชีวิต   พิสมัย
ได้เริ่มต้น การเดินทาง  แสนยาวไกล
ได้มั่นใจ  ได้ร่วมทาง ได้ถูกคน

ชีวิตคู่  เริ่มต้นอยู่  ด้วยความรัก
แต่พิทักษ์  ให้ยืนยาว  นั้นหลายสิ่ง
ต้องยอมรับ  ต้องเข้าใจ  กันแท้จริง
แล้วทุกสิ่ง  ล้วนลงเอย  สุขนิรันดร์


เรียบเรียงและประดิษฐ์อักษรโดย ...ชายสุขนิยม




วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

ฟ.แฟน นั้นหายาก

๐--Sookniyom Poet Society--๐

 
ผู้ชาย..ฟ. แฟน...แบบ สุขนิยม อารมณ์จิกกัด ฮ่าๆๆๆ

ฟ. แฟน.......นั้นหายาก ต้องลำบาก อดทนหา
แค่คิด.........ว่าได้มา แฟนที่ว่า กลับเปลี่ยนไป
อยากได้......คนที่รัก คนฟูมฟัก คนใส่ใจ
ตอนแรก......ได้ดั่งใจ พอนานไป ก็เปลี่ยนแปลง

.....ตอนแรกรัก ก็ฟูมฟัก ดั่งรักแรกพบ
.....พอตอนคบ ช่างน่ารัก น่านับถือ
.....พออยู่ไป มันชักแปลก จากหน้ามือ
.....เปลี่ยนไปคือ เป็นหลังเท้า น่าเศร้าใจ

.....ตอนแรกเข้า บอกเป็นให้ ได้ทุกอย่างแค่
.....ตอนกลาง ไอ้ทุกอย่าง มันอยู่ไหน
.....พอกรูถาม มันก็โกรธ ทำโวยวาย
.....โธ่...ไอ้ฟาย นี่ตอนปลาย ยังไม่มี

.....งั้นกรูขอ ให้มันจบ.. แค่ตอนนี้
.....เอาตอนที่ กรูยังพอ ทำใจไหว
.....ถ้าขืนรอ ให้เป็นต่อ แบบนี้ไป
.....กรูคงได้ อาหารเป็ด เสร็จแน่มรึง .... ๕๕๕๕๕

๏เรียบเรียงและประดิษฐ์อักษรโดย...ชายสุขนิยม
 
 

สุขนิยม อารมณ์...โสด


โสด.....คือสถานะทางกายภาพ ว่าง......คือสถานภาพทางด้านจิตใจ
รอ........คือกิจกรรมยามว่าง...ของคนโสด ช่วงที่ไม่มีอะไรทำ



สถานะ ☑โสดเสมอ เพราะ รอเธอเอาสถานะนี้ออกไป

โสด..อย่างเรา ไม่ดราม่าเพราะเรายังลั๊นลาได้เรื่อยๆ

☑โสดแค่สถานะทางร่างกาย แต่สถานภาพ หัวใจ ใหม่ สด เสมอ ... โสดตรามะลิ

☑ โสด..อย่างคนมีศักดิ์ศรี..เพราะเรามีรักที่ดีอยู่ข้างใน

☑ โสด..อย่างมีคุณค่า เพราะเรารู้ว่าความรักกำลังเดินทางมาหา...เร็วๆนี้

☑ โสด..อย่างทรนง เพราะเราคงไม่เอา หัวใจ ไปให้กับใครที่มองไม่เห็นค่า

☑ โสด..แบบโดดเดี่ยว เพราะอีกเดี๋ยวความรักก็เลี้ยวเข้ามาทักทาย.

☑ โสด..แบบตั้งใจไม่ง้อพรหมลิขิตและDestiny เพราะ หัวใจ เราเป็นของดี ที่ยังไม่ได้วางแผนโปรโมต

โสด = ไม่มีคู่...ไม่ได้แปลว่า ไม่มีความรัก...โสดวันนี้ มีรักที่ดีวันหน้า

ถึงเราจะโสด ถึงจะเหงา..แต่ก็ไม่เคยคิดร้องขอความเห็นใจ...เพราะเราไม่ใช่ "ผู้ด้อยโอกาสทางด้าน..ความรัก"

ถ้าเปิดหัวใจคนโสดอย่างผมดู..คุณก็จะเจอแต่...ความรัก เพราะผมยังไม่ได้แบ่งไปให้ใคร

อย่าคิดว่า..โสดเพราะจำเป็น..บางคนยอมเป็นโสดเพราะว่า อยากเป็น...มันคงดีกว่าเยอะถ้าเป็นคนมีคู่แต่โดนความรักหลอกใช้..."รักความโสด ดีกว่าต้องมายอมรับความไม่ภักดี


ก็เพิ่งรู้ว่า..เป็นโสด..มันดีตรงที่ จะมองใครก็ได้ ถ้ารู้สึกดีและไม่เคยรู้สึก Guilty ถ้าคนที่มองไม่ใช่แฟนตัวเอง...คน
หัวใจ..คนโสดก็เปรียบเหมือนธนาคารความรัก..ที่ยังสามารถรับฝากความรักของทุกคนได้..และยังมีโอกาสได้ใช้ดอกเบี้ยชีวิตที่เรียกว่า..ความสุขโสดสุขได้

ช่วงโสด ก็เปรียบเหมือน ช่วงเทศกาลพักร้อนเป็นฤดูพักผ่อนของหัวใจ
 
ถึงเราจะโสด ถึงจะเหงา..แต่ก็ไม่เคยคิดร้องขอความเห็นใจ...เพราะเราไม่ใช่ "ผู้ด้อยโอกาสทางด้านความรัก"

คนมีคู่มีวันแห่งความรักแค่วันเดียวคือวันวาเลนไทน์ แต่ คนโสดมีวันแห่งความรัก 364 วัน เพราะทุกวันอาจเป็น..วันพบรัก

คนโสด...ไม่ใช่คนไร้คู่หรือคนที่อยู่ไม่มีค่า..แต่..เรายังหาสิ่งที่เรียกว่า..เหมาะสม..ยังไม่เจอ
....และจะขอเป็นโสดซะให้เข็ด..เพราะเราจะใส่ให้เต็มเ ม็ด..กับความรักครั้งต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

เรื่องเล่าประทับใจ ในวัยเยาว์ เมื่อครั้งที่เราเป็น เด็ก (When I was Young)

จำได้ว่าครั้งนึง....ตอนยังเด็กมาก น่าจะประมาณตอนเรียนอยู่ ชั้น ป.1 เป็นเรื่องที่ผมจำได้แม่นยำมากเพราะเป็นประสบการณ์เสี่ยงตายที่เกือบได้ตายสมใจ....
        ผมเป็นเด็กบ้านสวน ของ อ.ตลิ่งชัน บ้านผมเป็นที่อยู่ติดริมคลอง เป็นคลองเล็กๆ ที่ชื่อว่า คลองบางระมาด ... วันนึงมีเพื่อนของพ่อแวะมาหาที่บ้าน แล้วเพื่อนพ่อคนนั้นได้เอา "ตะกรุด" ที่เอาไว้ผูกเอวมาฝากพ่อผม..ด้วยในความที่เป็นเด็กช่างสงสัยและมักจะตื่นตาตื่นใจกับของใหม่ที่ตัวเองไม่เคยเห็นเสมอ ตอนนั้นผมคิดได้อย่างเดียวครับ ว่าสิ่งนี้ คือ ของวิเศษ ถ้าใครมีไว้ครอบครองก็น่าจะมีพลังวิเศษอะไรแบบนั้น...ผมเลยไม่ปล่อยโอกาสให้เสียเปล่ารีบเข้าไปสอดแทรกอยู่ในวงสนทนาของพ่อในทันทีด้วยความอยากรู้อยากเห็น โดยที่ไม่รู้หรอกครับว่ามันเสียมรรยาท เพราะตอนนั้นผมยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจเรื่องแบบนี้

        แต่พี่สาวผมคงเข้าใจ เห็นดังนั้น จึงรีบดึงน้องชายออกมาเพราะกลัวพ่อจะรำคาญ แต่..คิดเหรอครับว่าผมจะยอมง่าย ๆ เพราะความสงสัยกับความอยากรู้มันยังไม่หมดไปจากตัวผม ผมก็ยังดื้อไม่ยอม..แต่..ด้วยความปราดเปรื่องของพี่สาวผม เธอจับจุดอ่อนของผมได้ เลยรู้ว่าต้องทำอย่างไรผมถึงจะออกมาจากตรงนั้น...เธอจึงสร้างประโยคขึ้นมาที่ทำให้รู้สึกน่าสนใจกว่าที่ผมจะอยู่ตรงนั้น..มันก็คือเรื่องประเภทเดียวกันที่พวกผู้ใหญ่ชอบใช้  "เรื่องหลอกเด็ก" นั่นแหละครับ ประโยคนั้นก็คือ " รู้มั๊ยว่า อันนี่น่ะ (มือชี้ไปที่ตะกรุดอันนั้น) เค้าเรียกว่าอะไร แล้วอยากรู้มั๊ยล่ะว่าใส่แล้วจะมีพลังวิเศษยังไง อยากรู้ก็ตามมา" แล้วพี่สาวผมก็เดินออกมาจากตรงนั้น..โอ้โห..ไงล่ะครับ เจอประโยคนี้เข้าไป เล่นผมซะอยู่หมัด เหมือนโดนน๊อคคาเวที เดินตามออกมาแทบไม่ทัน ลืมเรื่องสนใจของจริงที่อยู่ตรงหน้าในทันที....เพราะไอ้เรื่องจะมีอิทธิฤทธิ์ มีอภินิหาร นี่แหละครับ แหม...ก็อย่างว่าแหละครับ ตอนเด็ก มีใครบ้างที่ไม่อยากเป็นยอดมนุษย์ ผมเลยต้องตกเป็นเหยื่อของพี่สาวตัวเอง ด้วย เรื่องหลอกเด็ก ...คิดแล้วแค้น...^___^..

         ผมรีบตามไปถามพี่สาว ทันที.."บอกหน่อยดิ ว่าถ้าใส่ไอ้นั้นและจะมีพลังวิเศษยังไง บอกหน่อยนะ" .... พี่สาว ผมคงไม่รู้จะโกหกยังไงต่อเลย นิ่งเงียบ ไม่ตอบ อยู่สักพักแต่เธอคงเริ่มเห็นเค้าลางบางอย่างในตัวผม ว่าถ้าไม่รีบตอบ มันต้องกลับไปที่เดิมตรงพ่ออยู่แน่ จึงตัดใจรีบตอบก่อนที่ผมเบนความสนใจ..."ใส่แล้วว่ายน้ำเป็น" มันเป็นคำตอบที่สิ้นคิดของผู้หญิงคนนึง แต่ มันกลับสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้กับเด็กน้อยคนนึงอย่างมากมายมหาศาล เพราะการว่ายน้ำไม่เป็นของเด็กริมคลองในช่วงเวลานั้นของผม...มันคือรอยด่างในชีวิตเลยก็ว่าได้ครับ..เพราะเพื่อน ๆ รุ่นเดียวกันแถวนั้นเค้าว่าน้ำเป็นกันทุกคน...มันเป็นปมด้วยมากๆ ครับ เวลาเพื่อน ๆ ว่ายน้ำเล่นข้ามคลองกันอย่างสนุกสนาน แต่ เราต้องนั่งอยู่ในน้ำเป็นพนักงานเฝ้าบันไดท่าน้ำ...มันเศร้าจริงๆ นะครับ แต่จากวันนี้ไป ความหวัง ที่จะได้ว่ายน้ำเป็นเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ได้เปล่งประกายความสดใสในจินตนาการ ภาพการว่ายน้ำเล่นอย่าสนุกสนานร่วมกับเพื่อน มันว่ายเวียนอยู่ในความคิดผมอย่างมีความสุข ณ เวลานั้น
         จากกวันนั้น...ความมุ่งมั่นของเด็กน้อยก็ได้ถือกำเนิดขึ้น..สิ่งนั้นก็คือ การออกตามหาตะกรุด อันนั้นให้เจอให้ได้ ว่าพ่อเก็บเอาไว้ที่ไหน ... แต่ตามหาอยู่หลายวันครับ ก็ยังไม่เจอซักที ไม่รู้ว่าพ่อเอาไปเก็บหรือซ่อนเอาไว้ที่ไหน แต่ก็ไม่เคยละความพยายามครับ เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องหาให้เจอให้ได้ เพื่อจะได้เอามาลบรอยต่างในชีวิตตัวเองให้ได้...แล้ววันนึงก็เหมือนโชคจะเข้าข้าง ฟ้าเป็นใจ พ่อผม..หยิบตะกรุดอันนี้ออกมาเพื่อให้เพื่อนๆ พ่อดู....ผมเห็นอย่างนั้น ก็นึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ "ฮ่าๆๆๆ วันนี้แหละ จะเป็นวันที่จะได้รู้สักที ว่าพ่อเอาของวิเศษสิ่งนี้ ไปซ่อนไว้ที่ไหน กันแน" จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาที่ต้องตามติดแบบไม่กระพริบตา ผมนั่งรอทำทีเป็นไม่สนใจรอจนกว่าพ่อจะเอาของวิเศษสิ่งนี้ไปเก็บ...(ผมว่าตอนนั้นพอ่ผมคงรู้สึกแปลกใจนิดๆ แหละครับว่า เออวันนี้ลูกชายเราเป็นเด็กดีไม่ออกไปเล่นซนที่ไหนอยู่ติดบ้านได้ ฮ่าๆๆๆ) แล้วในที่สุด เวลาที่เฝ้ารอคอยมาตลอดก็มาถึง พ่อผมเดินเตะกรุดอันนั้นไปเก็บ ผมก็แสร้งทำเป็นเดินตามไปแบบเนียนๆ ไม่ให้พ่อเอะใจ ... แล้วผมก็ต้องแปลกใจ อึ้งกิมกี่สุดชีวิต พระเจ้าช่วย ไม่น่าเชื่อ พ่อผมนี่ช่างล้ำลึกจริงๆ กับการหาที่เก็บของวิเศษสิ่งนี้จริงๆ นี่มั๊งที่เค้าบอกๆ กันว่า ที่ๆ อันตรายที่สุด คือที่ ๆ ปลอดภัยที่สุด...รู้มั๊ยครับว่าพ่อผมเก็บตะกรุดอันนี้ไว้ที่ไหน? พ่อแขวนมันไว้ที่หน้าห้องตรงหัวตะปูข้างๆ ปฏิทิน..ซึ่งผมก็ผ่านทุกวันแต่ไม่เคยสังเกตุเลย ว่ามันอยู่ตรงนั้นมาตลอด เอาแต่ไปหาอยู่แต่ในห้องของพ่อ คิดแล้วก็ได้แต่เจ็บใจตัวเองว่าทำไมเราถึงโง่และเซ่อขนาดนี้...แต่สุดท้ายมันก็ย้อนกลับไปเป็นความชื่นชมในความเฉลียวฉลาดของพ่อตัวเองที่สามารถหลอกลูกชายตัวเองได้สนิทใจ(มาคิดในใจตอนนี้..อย่างว่าแหละครับหลอกคนใกล้ตัวมันง่ายกว่าหลอกคนอื่นอยู่แล้ว พ่อหลอกเรื่องที่ซ่อนตะกรุดผมได้ แต่พ่อกลับหลอกโจรที่มาขโมยจักรยานของผมไม่ได้ หรือเป็นเพราะว่าพ่อผมมือตก เนื่องจากเวลามันก็ห่างกันตั้ง สิบกว่าปี ก็น่าคิดและมีโอกาสเป็นไปได้ คริคริ)
          และแล้วช่วงเวลาที่จะสร้างเรื่องประทับใจ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเด็กคนนึงก็เกิดขึ้น....ผมหาโอกาสและจังหวะที่ทุกคนไม่ได้หน้าบ้านตรงริมน้ำ..แล้วตั้งใจว่า จะปีนไปเอาตะกรุดวิเศษอันนั้นลงมา ผูกเอวตัวเองซะ แล้วจะกระโดดน้ำให้เสียง ดัง ๆ จากนั้นก็ว่ายออกไปกลางคลองเพื่อตะโกนให้ทุกคนได้ยินว่า "ดูนี่..ผมว่ายน้ำเป็นแล้ว" ..นี่แค่คิดนะครับ ก็มีความสุขซะเหลือเกิน...แล้วเวลานั้นก็มาถึง ผมรีบทำตามขั้นตอนที่กล่าวทั้งหมด แต่....ขั้นตอนที่ทำได้ มันมาสะดุดและหยุดตรงที่ กระโดดน้ำเสียงดัง แค่นั้นเอง...จากนั้นคงเดาต่อไม่ยากไม่ใช่มั๊ยครับว่าเกิดอะไรขึ้น...ใช่ครับ "ผมจมน้ำ" เวลานั้นรู้สึกอย่างเดียวคือพยายามตะเกียกตะกาย ร้องตะโกนจนกินน้ำเข้าไปหลายอึก ทั้งเข้าจมูกออกปาก จากนั้น ก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนแว่วๆ มาให้ได้ยินจากบ้านฝั่งตรงข้าม.."เร็ว ๆ โว๊ย มีคนตกน้ำ อ้าว ไอ้ต๋า นั่น ไอ้ต๋านี่ เร็ว ๆ เข้ามันจะจมแล้ว" แล้วก็มารู้สึกอีกที่ว่ามีมือใครสักคนอาโอบที่ตัวเราเอาไว้แล้วก็พาเราว่ายเข้าฝั่ง.....พอถึงฝั่งตรงบันได เท่านั้นแหละครับ ผมแผดเสียง แหกปากร้องลั่น ร้องไห้แบบไม่คิดอะไรอีกแล้ว...ทั้งตกใจ ทั้งกลัว ทั้งสำลักน้ำ ทั้งทรมานน้ำเข้าจนแสบจมูกไปหมด สารพัดความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา..แต่ที่หนักหนาสาหัสที่สุด ก็คือ เจ็บใจที่โดน พี่สาวตัวเองหลอกซะยับเยิน..ความฝัน สลายไปในพริบตา ... แต่รู้มั๊ยครับ คนที่กระโดดไปช่วยผมคนแรกคือใคร...พี่สาวผมเอง..พอตั้งสติได้ แล้วเห็นว่าใครอยู่กับเราในน้ำ เรื่องที่คิดจะโกรธ มันหายไปหมดเลยครับ ก็ได้แต่โผเข้ากอดแล้วก็ร้องไห้อย่างเดียวเท่านั้น 
          หลังจากวันนั้นผมมารู้ทีหลังว่า พี่สาวผมคือคนที่อยู่ไกลที่สุดจากจุดที่ผมตกน้ำแต่กลับไปถึงตรงนั้นเป็นคนแรก แม่ผมยังแซวเลยครับว่าพี่ผมเค้าหายตัวได้ ไวเป็นลิงลม ถึงจะเจ็บใจที่โดนพี่สาวตัวเองหลอกแต่ก็รู้สึกดีครับที่พี่สาวผมยังรักและยังคองปกป้องน้องชายคนนี้อยู่....ฮ่าๆๆๆๆ แต่ก็มีอยู่อย่างนึงที่ผมรู้สึกได้แอบสะใจอยู่เล็กๆ คือวันนั้น นาฬากาเรือนโปรดของพี่สาวผม จมน้ำหายใต้คลองแทนผมไปเรียบร้อยครับ....คริคริ ขอคืนหน่อยนะพี่สาวคนแสบ


            ก็อยากฝากเอาไว้นะครับ...สำหรับผู้ใหญ่ทั้งหลาย เก็บไว้คิดกันสักนิดครับ..อย่าหาเรื่อง ไปหลอกเด็ก กันให้มากไป  มันไม่ดี ระวังจะต้องเสีย ของรักของหวง เพราะว่า เราไปหลอกเด็ก ....กรรมมันตามทัน ได้ในทันทีเหมือนกัน..คริคริ

เย็นศิระ เพราะพระบริบาล

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า ชาย สุขนิยม ... แห่งหน้า Blogpost Sookniyom


ผมโดนสาวเกาหลี..ทำร้าย..ยับเยินๆ



สวยแบบซี่รี่ย์สาวเกาหลี สวยแบบบล็อคเดียวกัน
ถ้าพูดถึงเรื่องความสวยของสาวๆ สมัยนี้...ผมว่าตั้งแต่ชนชาติเกาหลีได้วิวัฒนาการเรื่องความสวยแบบไม่ง้อธรรมชาติไปจนทะลุติดเพดานนางฟ้ากันเกือบหมดประเทศจนสามารถเผยแผ่ส่งออกมายังประเทศไทย และเป็นที่นิยมเลียนแบบกันอย่างแพร่หลายในหมู่สาวๆ บ้านเรา..ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กๆ ที่ยังไม่ทันจะแตกเนื้อสาว ก็เริ่มวิวัฒน์เริ่มเรียนรู้และเริ่มเข้าสู่นวัตกรรมความงามตั้งแต่ยังไม่ทันเป็นวัยรุ่นด้วยซ้ำไป...ส่วนผมตอนนี้เหรอครับ ผมเริ่มที่จะแยกแยะความสวยไม่ออกแล้ว..ว่าแบบไหนสวยจริง,สวยแท้.สวยเทียม.สวยปลอม,สวยทำ,หรือแม้แต่สวยธรรมะ(ธรรมชาติยัดเยียดมาให้สวย)...เพราะพวกเธอสวยกันมาเป็นซีรีย์..เป็น collectoin กันเลยทีเดียว..แบบว่า..ไล่เรียงกันมาเป็น Generation สวยบล็อคเดียวกันหมด...ณ. ตอนนี้ ผมว่าสมองส่วน ซีรีเบลลัม  ที่ทำงานสำหรับแยกแยะเรื่องความสวยในหญิงสาว ของผม ทำงานบกพร่องไปเยอะครับตั้งแต่สาวๆ เกาหลีเข้ามาอาละวาดในประเทศไทย..น่าจะถึงขั้นเสียหายรุนแรงเลยก็ว่าได้...ผมคิดว่า..ผมน่าจะโดนสาวๆ เกาหลีทำลายประสาทการรับรู้เรื่องความสวย ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ...>_<!!!!!!
    

              ทุกวันนี้... อยากบอกว่าสาวๆ บ้านเราเดินเข้าคลีนิคศัลยกรรมพลาสติกหรือสถาบันเสริมความงามดูเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว..เหมือนประหนึ่งว่าเข้าไปเดินเล่นช็อปปิ้งในห้างสรรพสินค้ากันเลยก็ว่าได้ ไปทำศัลยกรรมพลาสติกแบบไม่คิดอะไรมากนอกจากขอแค่ออกแล้วสวย( ตอนเดินเข้าไปสภาพเหมือนกับนางมารทำหน้าปวดใจแต่พอขากลับออกมาเหมือนเกิดใหม่ได้เป็นนางฟ้า..คริคริ ) เดินไปหาหมอเหมือนกับเดินไปสั่งอาหารในร้านข้าวราดแกง ไม่ต้องเปิดเมนูให้เสียเวลา..ดูรูปดาราคนโปรดแล้วสั่งทำได้เลย ฮ่าๆๆสนนราคาเดี๋ยวนี้ ก็ไม่ไกลเกินเอื้อม บางที่มีระบบผ่อนชำระด้วยซ้ำไป (สวยแบบผ่อนส่ง )ฮ่าๆๆๆ ..ส่วนอีกสิ่งหนึ่ง ที่ขาดกันไม่ได้นั่นก็คือ...อาหารเสริมความงามหรือเรียกให้ตรงประเด็นก็คือ ยาบำรุงความสวย นั่นแหละครับ รับประทานกันราวกับว่าเป็นขนมทานเล่นซะอย่างนั้น บางคนกินครั้งหนึ่งเป็นกำมือคือเรียกว่ากินมื้อเดียวอิ่มแทนข้าวได้เลย..โอ้โห..(คิดในใจ) นี่ช่างเป็นบุญวาสนาของเราจริง ๆ ที่ไม่ได้เกิดมาเพื่ออยากเป็นคนสวย ไม่งั้นคงแย่แน่ๆ ... คริคริ


สวยทะลุเพดานนางฟ้า ทุกนางจริง ๆ
          ยิ่งคิดก็ยิ่งน่ากลัวนะครับ กับเรื่องการฝืนกฎธรรมชาติในลักษณะนี้..เพราะผมมีความเชื่อส่วนตัวอยู่อย่างหนึ่งว่า..ธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เราจะไปฝืนความจริงของมันได้ และยิ่งเราหากแข็งขืนต่อกฏของธรรมชาติหรือลุกล้ำความพอดีไปปรับเปลี่ยนวงจรที่ธรรมชาติเป็นอยู่มากจนเกิน วันนึงธรรมชาติจะกลับมาเอาคืนอย่างแสนสาหัส ซึ่งก็น่าจะเป็นอย่างที่เราเห็นๆ กันในปัจจุบันกับภัยพิบัติร้ายแรงต่าง ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกของเราในเวลานี้ สาเหตุก็เนื่องมาจากการรุกล้ำและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากธรรมชาตที่มากจนเกินความพอดี ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่เกิดจากน้ำมือมนุษย์โดยทั้งสิ้น

            สำหรับผม... คงไม่ขอฝืนหรือแหกกฎใดใดของธรรมชาติอย่างแน่นอน ขอเป็นคนหล่อมีธรรมะ แบบนี้เรื่อยไปดีกว่าครับ สบายใจดี เพราะหล่อมีธรรมะในแบบของผม ก็คือ หล่อแบบธรรมชาติลงโทษมาตั้งแต่เกิดแล้วครับ...ฮ่าๆๆๆๆๆๆ